โอบาระ (Obara) – ดินแดนซากุระฤดูใบไม้ร่วง หนึ่งเดียวในญี่ปุ่น
หากพูดถึง “ซากุระ” หลายคนอาจนึกถึงภาพดอกสีชมพูเบ่งบานในฤดูใบไม้ผลิ แต่รู้หรือไม่ว่าในญี่ปุ่นยังมีอีกหนึ่งสถานที่ที่สามารถชมซากุระได้ในช่วง ฤดูใบไม้ร่วง และยังมีเพียงแห่งเดียวในประเทศ นั่นก็คือ “โอบาระ” (Obara) เมืองเล็ก ๆ ในจังหวัดไอจิ ที่เปลี่ยนช่วงเดือนพฤศจิกายนให้กลายเป็นภาพฝันที่ทั้งหายากและงดงามเกินบรรยาย
โอบาระมีจุดเด่นที่หาไม่ได้จากที่ไหนในญี่ปุ่น นั่นคือการได้ชม ดอกซากุระพันธุ์พิเศษ “Shikizakura” ที่บานพร้อมกับใบไม้เปลี่ยนสี หรือที่เรียกง่าย ๆ ว่า “ซากุระฤดูใบไม้ร่วง” ให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศโรแมนติกแบบสองฤดูในหนึ่งเดียว
🌸 Shikizakura – ซากุระสี่ฤดู ความงามที่หาชมได้ยาก
“Shikizakura” (四季桜) แปลว่า “ซากุระสี่ฤดู” เป็นพันธุ์ที่สามารถออกดอกได้ปีละ 2 ครั้ง ทั้งในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – เมษายน) และในฤดูใบไม้ร่วง (ปลายตุลาคม – ปลายพฤศจิกายน)
โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ร่วง ดอกซากุระสีชมพูอ่อนของ Shikizakura จะเบ่งบานตัดกับฉากหลังของใบไม้สีแดง เหลือง และส้ม สร้างภาพบรรยากาศที่เหมือนหลุดมาจากภาพวาด ไม่ว่าจะเป็นมุมกว้างของหุบเขา หรือทางเดินเลียบลำธาร
โอบาระมีต้นชิกิซากุระปลูกอยู่มากกว่า 10,000 ต้น กระจายอยู่ทั่วหมู่บ้านในจุดหลัก ๆ หลายแห่ง โดยเฉพาะบริเวณ Obara Fureai Park และ Senmi Shikizakura-no-sato ซึ่งเป็นจุดยอดนิยมที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ
โอบาระอาจไม่ใช่จุดหมายหลักของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วไป แต่สำหรับคนที่หลงรักธรรมชาติ ความสงบ และความงามอันมีเอกลักษณ์ ที่นี่คือหนึ่งใน “ขุมทรัพย์ฤดูใบไม้ร่วง” ของญี่ปุ่นที่คุณไม่ควรพลาด
🍁 ฤดูกาลที่เหมาะกับการเที่ยวโอบาระ
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวชมซากุระฤดูใบไม้ร่วงที่โอบาระคือ:
-
ปลายเดือนตุลาคม – กลางเดือนพฤศจิกายน
-
โดยทั่วไปช่วงพีคที่สุดอยู่ประมาณ 10–20 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่ทั้งซากุระและใบไม้แดงบานพร้อมกัน
อุณหภูมิในช่วงเช้าจะค่อนข้างเย็น อยู่ที่ประมาณ 5–10°C ควรเตรียมเสื้อกันลม หรือเสื้อกันหนาวบาง ๆ ไปด้วย


📍 สถานที่สำคัญในโอบาระที่ไม่ควรพลาด
1. Obara Fureai Park
สวนหลักของหมู่บ้านที่มีเส้นทางเดินชมต้นซากุระหลายร้อยต้น และล้อมรอบด้วยภูเขาในฉากหลัง ที่นี่มีทั้งพื้นที่จัดงานเทศกาลซากุระเล็ก ๆ ร้านค้าท้องถิ่น และจุดชมวิวหลายจุดที่ไม่ต้องเดินไกล
2. Senmi Shikizakura-no-sato
อีกหนึ่งจุดชมวิวที่สวยและได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ที่นี่เป็นเส้นทางเดินเลียบหุบเขา มีลำธารไหลผ่าน ให้ภาพของซากุระและใบไม้เปลี่ยนสีที่สะท้อนในน้ำอย่างน่าประทับใจ
3. Obara Paper Art Museum (Washi-no-Furusato)
พิพิธภัณฑ์กระดาษญี่ปุ่นท้องถิ่น ที่จัดแสดงและให้ทดลองทำ “วาชิ” (กระดาษญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม) ซึ่งเป็นหัตถกรรมขึ้นชื่อของโอบาระ
📌 เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสวิถีชีวิตญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้ง
🧭 วิธีการเดินทางไปโอบาระ
โอบาระตั้งอยู่ในเมืองโทโยตะ (Toyota) จังหวัดไอจิ ห่างจากนาโกย่า (Nagoya) ประมาณ 1.5 ชั่วโมง เหมาะสำหรับเดินทางแบบ ไปเช้า – เย็นกลับ
🚆 โดยรถไฟ + รถบัส:
-
จาก Nagoya Station → ขึ้น Meitetsu Line ไปลง Toyotashi Station (ประมาณ 50 นาที)
-
จากสถานีโทโยตะ → ต่อรถบัสสาย Obara Line ไปลงที่ป้าย Obara-Okusa หรือ Washi-no-Furusato
(รถบัสใช้เวลาประมาณ 50 นาที / วิ่งไม่ถี่ ควรเช็คตารางล่วงหน้า)
🚗 โดยรถยนต์ส่วนตัวหรือเช่ารถ:
– ใช้ทางด่วน Tomei Expressway หรือ Shin-Tomei → ลงที่ Toyota IC หรือ Toyota-Matsudaira IC
– ขับต่ออีกประมาณ 30–40 นาที ถึงโอบาระ
📌 ข้อดีคือสามารถไปเที่ยวต่อที่ โครังเค ได้ง่ายในวันเดียว
🛍️ ของฝากท้องถิ่นที่ควรลอง
-
ขนมวากาชิ (ขนมญี่ปุ่นแบบโบราณ) รูปดอกซากุระ
-
กระดาษวาชิทำมือ พร้อมลวดลายดอกซากุระในฤดูใบไม้ร่วง
-
ข้าวกล่องท้องถิ่น เช่น โอบาระเบนโตะ ที่ใช้วัตถุดิบพื้นบ้าน
✨ ทำไมต้องไปโอบาระ?
-
เป็นสถานที่เดียวในญี่ปุ่นที่ชมซากุระได้ในฤดูใบไม้ร่วง
-
ได้ภาพถ่ายที่ไม่ซ้ำใคร ซากุระ + ใบไม้แดงในเฟรมเดียว
-
เดินทางง่ายจากนาโกย่า
-
มีกิจกรรมวัฒนธรรมท้องถิ่นและอาหารพื้นเมืองให้ลอง
-
เหมาะกับนักเดินทางที่อยากเที่ยวญี่ปุ่นแบบไม่ซ้ำใคร และหลีกเลี่ยงความพลุกพล่านของเมืองใหญ่
📸 เคล็ดลับถ่ายภาพที่โอบาระ
-
เวลาที่แสงสวยที่สุด: ก่อน 9 โมงเช้า หรือช่วงบ่ายหลัง 15.00 น.
-
ใช้เลนส์มุมกว้างจะได้ภาพวิวหุบเขาเต็มเฟรม พร้อมต้นไม้หลากสี
-
จุดชมวิว Obara Fureai Park มีพื้นที่สูง เหมาะกับการถ่ายมุม Bird’s-eye view
หากคุณวางแผนมาเที่ยวญี่ปุ่นช่วงพฤศจิกายน อย่าลืมใส่โอบาระไว้ในลิสต์ เพราะความรู้สึกที่ได้เห็นดอกซากุระเบ่งบานท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสี… เป็นสิ่งที่ “ภาพถ่าย” ไม่สามารถถ่ายทอดได้เท่ากับ “ตาเห็นและใจรู้สึก” จริง ๆ