เที่ยวภูเขาไฟฟูจิ & ทะเลสาบทั้ง 5 – เสน่ห์เหนือคำบรรยายที่คุณต้องไปสัมผัส
ถ้าให้เลือกว่า “ภาพไหนคือสัญลักษณ์ของญี่ปุ่น” เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึง ภูเขาไฟฟูจิ (Mount Fuji) ที่ปรากฏคู่กับทะเลสาบสะท้อนเงาภูเขา หรือต้นซากุระเบ่งบานเบื้องหน้า
แน่นอนว่าภูเขาไฟฟูจิไม่ใช่แค่แลนด์มาร์กธรรมดา แต่เป็นประสบการณ์ญี่ปุ่นแท้ ๆ ที่ต้องไปเห็นด้วยตาตัวเอง
🗻 ฟูจิซัง – มรดกโลกที่มีชีวิต
ภูเขาไฟฟูจิ (Fuji-san) สูง 3,776 เมตร ตั้งอยู่บริเวณรอยต่อของจังหวัด ยามานาชิ และ ชิซูโอกะ ในภูมิภาคชูบุ แม้จะอยู่ไม่ไกลจากโตเกียว แต่วิวธรรมชาติที่นี่ให้ความรู้สึกราวกับอยู่อีกโลกหนึ่ง
ไม่ใช่แค่วิวสวย ฟูจิยังเป็นศูนย์รวมจิตวิญญาณของชาวญี่ปุ่นมานานหลายร้อยปี ทั้งในฐานะศิลปะ วรรณกรรม และศาสนา ผู้คนมากมายจึงไม่เพียงมา “ถ่ายรูป” แต่ยังมาสัมผัสจิตวิญญาณแห่งธรรมชาติที่สงบและยิ่งใหญ่
🏞️ 5 ทะเลสาบรอบฟูจิ – มุมมองที่แตกต่างของความงามเดียวกัน
ภูเขาไฟฟูจิจะสมบูรณ์แบบที่สุดเมื่อชมจากทะเลสาบรอบ ๆ โดยเฉพาะ ทะเลสาบทั้ง 5 (Fuji Five Lakes) ที่ตั้งอยู่ฝั่งจังหวัดยามานาชิ มีทั้งจุดถ่ายภาพยอดนิยม เส้นทางเดินชมธรรมชาติ และจุดพักผ่อนเงียบสงบ
1. ทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko)
✅ เหมาะกับผู้มาเยือนครั้งแรก
ถ้าอยากเห็นฟูจิแบบ “โปร่ง โล่ง สวย และมีครบทุกอย่าง” ที่นี่คือคำตอบ
-
จุดถ่ายรูป: สวนโออิชิ (Oishi Park), สะพานคาวากุจิโอฮาชิ
-
มีกิจกรรม: ออนเซ็น, ล่องเรือ, ชมซากุระ-ใบไม้แดง
-
ใกล้สถานี Kawaguchiko เดินทางง่ายจากโตเกียว
📌 ไกด์แนะนำ: ถ้าคุณพักที่นี่ 1 คืน ขอให้ตื่นเช้าไปชมฟูจิสะท้อนเงาน้ำที่ริมฝั่งตะวันตก บรรยากาศนั้นจะอยู่ในความทรงจำไปอีกนาน
2. ทะเลสาบยามานากะโกะ (Yamanakako)
✅ เหมาะกับสายธรรมชาติและครอบครัว
ทะเลสาบใหญ่ที่สุดในบรรดา 5 แห่ง มีลู่วิ่งและทางจักรยานรอบทะเลสาบกว่า 13 กม.
-
กิจกรรม: ปั่นจักรยาน, พายเรือ, ตั้งแคมป์
-
จุดชมวิว: Panorama-dai เห็นฟูจิแบบเปิดโล่ง
📌 ไกด์แนะนำ: เหมาะมากสำหรับกรุ๊ปครอบครัวหรือทัวร์ที่ต้องการใช้เวลาสงบ ๆ แบบ outdoor
3. ทะเลสาบไซโกะ (Saiko)
✅ เหมาะกับสายเดินป่าและสายแคมป์
ไซโกะมีความเงียบสงบมากที่สุด และอยู่ใกล้ ป่าอะโอกิงาฮาระ (ป่าแห่งความลึกลับ)
-
จุดน่าสนใจ: ถ้ำค้างคาว, เส้นทางเดินป่า
-
วิวฟูจิที่โอบล้อมด้วยป่าเขียว
📌 ไกด์แนะนำ: เหมาะสำหรับผู้ที่อยากหลีกหนีความพลุกพล่านและได้ฟังเสียงธรรมชาติอย่างแท้จริง
4. ทะเลสาบโชจิโกะ (Shojiko)
✅ สายถ่ายภาพต้องไม่พลาด
เล็กที่สุดแต่ได้ชื่อว่าเป็น “กระจกสะท้อนฟูจิ”
-
จุดเด่น: ภาพสะท้อนฟูจิพร้อม “ฟูจิน้อย” (ภูเขาเล็กเบื้องหน้า)
📌 ไกด์แนะนำ: ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่สวยสงบมาก และแสงเช้ายามรุ่งอรุณเหมาะแก่การถ่าย long exposure
5. ทะเลสาบโมโตสุโกะ (Motosuko)
✅ สายธนบัตรต้องมา!
วิวฟูจิที่ปรากฏบนแบงค์ 1,000 เยน ก็มาจากที่นี่
-
จุดเด่น: ทัศนียภาพโล่งกว้าง มองเห็นฟูจิแบบพาโนรามา
📌 ไกด์แนะนำ: สำหรับใครที่อยากถ่ายภาพมุมนี้เป๊ะ ๆ ให้เดินขึ้นไปบนเนินเขาเล็ก ๆ ฝั่งตะวันตกของทะเลสาบ ใช้เลนส์เทเลจะได้มิติสมบูรณ์
หากคุณต้องการเที่ยวภูเขาไฟฟูจิแบบไม่พลาดจุดสำคัญ ไม่ต้องขับรถเอง และอยากได้ข้อมูลครบพร้อมไกด์มืออาชีพ ปัจจุบันมีหลายบริษัทที่จัดทัวร์เส้นทางนี้ รวมถึง Letago Travel ผู้เชี่ยวชาญเส้นทางญี่ปุ่นที่มีทริปรอบทะเลสาบฟูจิแบบกลุ่มเล็ก รถตู้ส่วนตัว หรือแพ็กเกจเที่ยวต่อเนื่องสู่ฮาโกเนะและโตเกียว
🚉 วิธีเดินทางไปฟูจิแบบมือโปร
วิธี | รายละเอียด |
---|---|
🚆 รถไฟ + รถไฟท้องถิ่น | นั่ง JR จากโตเกียวไป Otsuki แล้วต่อ Fujikyu Railway ไป Kawaguchiko |
🚌 รถบัสตรง | จาก Shinjuku Bus Terminal → Kawaguchiko ใช้เวลา 2 ชม. สะดวกและไม่ต้องเปลี่ยนขบวน |
🚗 เช่ารถขับ | เหมาะมากหากคุณต้องการไปทะเลสาบหลายแห่งภายในวันเดียว |
🌸 เที่ยวฟูจิเดือนไหนดี?
ฤดู | เสน่ห์ | เหมาะกับกิจกรรม |
---|---|---|
มี.ค.–พ.ค. | ซากุระบาน วิวฟูจิกับดอกไม้ | ถ่ายรูป, ออนเซ็น |
มิ.ย.–ส.ค. | ท้องฟ้าใส เหมาะปีนเขา | ปีนฟูจิ, ล่องเรือ |
ก.ย.–พ.ย. | ใบไม้แดง หิมะเริ่มแตะยอด | ถ่ายภาพธรรมชาติ |
ธ.ค.–ก.พ. | หิมะคลุมยอดเขา | แช่ออนเซ็น, เที่ยวสงบ |
📌 วางแผนเที่ยวฟูจิอย่างไรให้คุ้ม?
-
หากมีเวลา 1 วัน → แนะนำ Kawaguchiko + จุดชมวิวรอบทะเลสาบ
-
หากมีเวลา 2 วัน → เพิ่มกิจกรรม เช่น แช่ออนเซ็น เล่น Fuji-Q Highland หรือพักแคมป์ที่ยามานากะโกะ
-
หากมีเวลา 3 วันขึ้นไป → เที่ยวครบทุกทะเลสาบ พร้อมขึ้น สถานีที่ 5 ของฟูจิหรือเดินป่าเส้นทางธรรมชาติ
ภูเขาไฟฟูจิ ไม่ได้เป็นแค่ภูเขา แต่มันคือช่วงเวลาที่จะอยู่ในความทรงจำของคุณตลอดไป