วัดคิโยมิสึเดระ (Kiyomizu-dera) – เกียวโต

หากเอ่ยถึงเมืองเกียวโต เมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยวัดวาอารามและวัฒนธรรมโบราณ ชื่อของ “วัดคิโยมิสึเดระ” หรือที่คนไทยมักเรียกกันว่า “วัดน้ำใส” ย่อมเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ต้องอยู่ในลิสต์ของนักท่องเที่ยวทุกคน

วัดแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับมรดกโลกของยูเนสโกเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่สะท้อนศิลปะและสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นยุคโบราณได้อย่างงดงาม ทั้งยังมีวิวจากระเบียงไม้ที่มองเห็นเมืองเกียวโตในมุมกว้าง เป็นหนึ่งในจุดชมซากุระและใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุดของญี่ปุ่นอีกด้วย

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปสัมผัสวัดคิโยมิสึเดระในมุมที่ลึกขึ้น ทั้งประวัติศาสตร์ ความเชื่อ สถาปัตยกรรม กิจกรรมท่องเที่ยว และเคล็ดลับในการเดินทางแบบครบครัน อ่านจบแล้ว รับรองว่าคุณจะหลงรักวัดแห่งนี้แน่นอน


ความหมายของชื่อ “คิโยมิสึเดระ” และประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน

“คิโยมิสึ” (清水) แปลว่า "น้ำใส"
“เดระ” (寺) แปลว่า "วัด"
รวมกันแล้วหมายถึง “วัดน้ำใส” ซึ่งตั้งชื่อตามน้ำตกโอโตวะ (Otowa Waterfall) ที่ไหลผ่านพื้นที่ของวัด และถือเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ของภูเขาโอโตวะ

วัดแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 778 โดยนักบวชชื่อเอ็นจิน (Enchin) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากความฝัน ก่อนที่วัดจะได้รับการสนับสนุนจากโชกุนโทกุงาวะในยุคเอโดะ และกลายเป็นวัดพุทธนิกายฮอสโซ (Hosso) ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของเกียวโต

สิ่งที่ทำให้วัดคิโยมิสึเดระพิเศษ คือแม้จะผ่านสงคราม ไฟไหม้ และภัยพิบัติมากมาย แต่โครงสร้างหลักของวัดโดยเฉพาะระเบียงไม้ขนาดใหญ่ กลับยังคงตั้งตระหง่านอย่างมั่นคงมาได้ถึงปัจจุบัน


ระเบียงไม้ “คิโยมิสึโนะบุตะได” – หัวใจของวัด

หนึ่งในจุดเด่นที่นักท่องเที่ยวต้องไม่พลาดคือ ระเบียงไม้ขนาดใหญ่ ที่ยื่นออกมาจากหน้าผา เรียกว่า “คิโยมิสึโนะบุตะได” (Kiyomizu-no-Butai)

ระเบียงนี้สร้างโดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว แต่ใช้วิธีการต่อไม้แบบญี่ปุ่นดั้งเดิม โดยวางอยู่บนเสาไม้โอ๊คขนาดใหญ่สูงกว่า 13 เมตร รองรับตัวอาคารหลัก ทำให้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองเกียวโตได้อย่างเต็มตา

ในฤดูใบไม้ผลิ (ปลายมีนาคม–ต้นเมษายน) นักท่องเที่ยวจะได้ชมซากุระบานสะพรั่งรอบภูเขา ส่วนในฤดูใบไม้ร่วง (ปลายพฤศจิกายน) ใบเมเปิลจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มงดงาม เป็นช่วงเวลาที่วัดแห่งนี้สวยจนแทบลืมหายใจ


สถาปัตยกรรมญี่ปุ่นโบราณที่ยังคงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์

ตัวอาคารหลักของวัดคิโยมิสึเดระ หรือ ฮอนโด (Hondo) สร้างในสไตล์สถาปัตยกรรมโบราณของญี่ปุ่น ใช้ไม้เป็นโครงสร้างหลัก โดยเฉพาะเสาและคานที่ใหญ่และแข็งแรงจนน่าทึ่ง ภายในประดิษฐาน “เจ้าแม่กวนอิมปาง 11 พักตร์” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวญี่ปุ่นนับถือมาก

บริเวณโดยรอบยังมีศาลเจ้าเล็ก ๆ หลายแห่ง เช่น

  • ศาลเจ้า Jishu – ศาลเจ้าที่เกี่ยวกับความรัก มีหินศักดิ์สิทธิ์สองก้อนที่เชื่อว่าหากเดินหลับตาจากก้อนหนึ่งไปอีกก้อนได้สำเร็จ จะสมหวังในความรัก

  • น้ำตกโอโตวะ – แบ่งออกเป็น 3 สาย เชื่อว่าการดื่มจากแต่ละสายจะนำโชคด้านสุขภาพ การเรียน และความรัก


ประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือน

นอกจากการชมวิวและถ่ายภาพ วัดคิโยมิสึเดระยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย เช่น

📿 เสี่ยงเซียมซีสไตล์ญี่ปุ่น

ที่ศาลเจ้า Jishu มีเซียมซีแบบญี่ปุ่นให้ลองเสี่ยงดวง ใบเซียมซีของญี่ปุ่นเรียกว่า “โอมิคุจิ” (Omikuji) หากได้ใบที่ไม่ดีสามารถผูกไว้กับเชือกเพื่อสะเดาะเคราะห์ได้

🧘‍♂️ เข้าร่วมพิธีกรรมพุทธศาสนา

บางช่วงจะมีพิธีกรรมเปิดให้เข้าร่วม เช่น การสวดมนต์ หรือการเดินจงกรมรอบอาคารวัด

📸 ถ่ายภาพชุดกิโมโน

บริเวณรอบวัดมีร้านเช่าชุดกิโมโนและยูกาตะมากมาย เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากถ่ายภาพย้อนยุคบนถนนสายโบราณอย่างถนนซันเน็นซากะ (Sannenzaka) และนีเน็นซากะ (Ninenzaka)

 

วัดคิโยมิสึเดระ (Kiyomizu-dera) – เกียวโต
ศิลปะ ศรัทธา และวิวเมืองที่งดงามที่สุดในเกียวโต


การเดินทางไปยังวัดคิโยมิสึเดระ

วัดตั้งอยู่ในฝั่งตะวันออกของเกียวโต สามารถเดินทางได้สะดวกทั้งจากสถานีเกียวโต หรือย่านกิออน

🚆 โดยรถไฟ + เดิน:

  1. จากสถานี Kyoto Station นั่งรถบัสสาย 100 หรือ 206 ลงที่ป้าย Gojo-zaka หรือ Kiyomizu-michi

  1. จากนั้นเดินเท้าขึ้นเนินประมาณ 10–15 นาที (ผ่านถนนซันเน็นซากะ)

🚌 โดยรถบัสจากเกียวโต:

  • รถบัสสาย 100 และ 206 วิ่งบ่อย โดยเฉพาะช่วงฤดูท่องเที่ยว

  • แนะนำให้ออกเช้าเพื่อหลีกเลี่ยงนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่


เวลาเปิด – ค่าเข้าชม

  • 🕰 เปิดทุกวัน เวลา 6:00–18:00 น. (หรือ 21:00 น. ในช่วงเทศกาล Light Up)

  • 💴 ค่าเข้าชม: 400 เยน (ประมาณ 100 บาท)

  • 🕯 ช่วงพิเศษ: ฤดูใบไม้ผลิ / ใบไม้ร่วง จะมี การเปิดไฟกลางคืน สวยงามมาก


จุดแวะรอบ ๆ วัดคิโยมิสึเดระ

  1. ถนนซันเน็นซากะ / นีเน็นซากะ
    ถนนหินแคบ ๆ ที่เรียงรายด้วยร้านขายของที่ระลึก ขนมญี่ปุ่น ชาเขียว และร้านเครื่องปั้นดินเผา

  2. ย่านกิออน (Gion)
    เดินต่อไปยังย่านกิออนเพื่อชมบ้านไม้เก่า และอาจได้เห็นไมโกะ (เกอิชาฝึกหัด) เดินผ่านในช่วงเย็น

  3. วัดโคไดจิ (Kodaiji Temple)
    อีกหนึ่งวัดเก่าใกล้ ๆ กันที่มีสวนญี่ปุ่นงดงามและบรรยากาศสงบกว่า


เคล็ดลับสำหรับการเที่ยววัดคิโยมิสึเดระ

  • 🧭 มาเช้า: เพื่อหลีกเลี่ยงนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่และได้แสงสวยสำหรับถ่ายภาพ

  • 🧤 พกรองเท้าดี ๆ: เส้นทางเดินเป็นทางหินลาดชัน ควรใส่รองเท้าสบาย

  • 📷 ถ่ายภาพ: จุดถ่ายรูปที่ดีที่สุดคือจากลานฝั่งตรงข้ามตัวอาคารวัด จะได้ภาพระเบียงไม้ทั้งอาคาร

  • 🎎 ชุดกิโมโน: ถ้าอยากเช่า แนะนำให้จองล่วงหน้า โดยเฉพาะช่วงซากุระและใบไม้แดง


วัดคิโยมิสึเดระ – มรดกโลกที่สัมผัสได้ด้วยหัวใจ

มากกว่าความงดงาม วัดคิโยมิสึเดระคือสถานที่ที่สะท้อนวิถีชีวิต ศรัทธา และภูมิปัญญาของชาวญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ทั้งสถาปัตยกรรมที่แข็งแรงโดยไม่ใช้ตะปู ความเชื่อที่ผสานศาสนาเข้ากับธรรมชาติ และทิวทัศน์ที่เชื่อมโยงผู้มาเยือนกับเกียวโตในมิติที่ลึกซึ้ง

หากคุณมีโอกาสได้มาเยือนเกียวโต ไม่ว่าจะเป็นครั้งแรกหรือครั้งที่ร้อย วัดคิโยมิสึเดระจะยังคงเป็นจุดหมายที่ “ควรค่าแก่การกลับมา” เสมอ


📌 หากต้องการทริปเที่ยวญี่ปุ่นแบบไม่ต้องกังวลเรื่องเส้นทาง

ลองเลือกแพ็คเกจคุณภาพจาก Letago Travel
บริษัททัวร์ที่เชี่ยวชาญเส้นทางญี่ปุ่น พร้อมไกด์คนไทยในเกียวโต
พาเที่ยวแบบลึก เข้าถึงจุดไฮไลต์ทุกมุม พร้อมบริการถ่ายรูปและดูแลตลอดเส้นทาง