เที่ยวชมทุ่งลาเวนเดอร์ ฮอกไกโด ดินแดนสีม่วงกลางฤดูร้อนที่ต้องไปให้ได้สักครั้ง

กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกไม้ และวิวที่ชวนฝัน "ทุ่งลาเวนเดอร์" ที่ฮอกไกโด (Hokkaido) คือจุดหมายปลายทางที่คุณไม่ควรพลาด

ทำไมต้องไปดูลาเวนเดอร์ที่ฮอกไกโด?

ฮอกไกโดมีสภาพอากาศที่เหมาะสมกับการปลูกลาเวนเดอร์มากที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยฤดูร้อนที่ไม่ร้อนจัด อากาศเย็นสบาย และภูมิประเทศที่สวยงาม ทำให้ทุ่งลาเวนเดอร์ในภูมิภาคนี้เบ่งบานได้อย่างงดงามเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในเมือง "ฟุราโนะ" (Furano) และ "บิเอะ" (Biei) ที่ขึ้นชื่อว่ามีทุ่งลาเวนเดอร์ที่สวยติดอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่น


ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเที่ยวชม

ลาเวนเดอร์จะเริ่มเบ่งบานตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน แต่ช่วงที่สวยที่สุดจะอยู่ใน กลางถึงปลายเดือนกรกฎาคม ดังนั้นหากคุณวางแผนมาเยือนฮอกไกโดเพื่อชมทุ่งลาเวนเดอร์ อย่าลืมจองตั๋วและที่พักล่วงหน้า เพราะถือเป็นช่วง High Season ของที่นี่เลยทีเดียว


จุดชมลาเวนเดอร์ยอดนิยมในฮอกไกโด

1. ฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita) – ฟุราโนะ

ฟาร์มโทมิตะคือฟาร์มลาเวนเดอร์ที่โด่งดังที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นภาพจำของทุ่งลาเวนเดอร์ที่หลายคนเห็นตามโปสเตอร์หรือนิตยสารท่องเที่ยว พื้นที่ขนาดใหญ่ของฟาร์มนี้เต็มไปด้วยลาเวนเดอร์หลากหลายสายพันธุ์ และยังมีสวนดอกไม้อื่น ๆ เช่น ป๊อปปี้ ดอกซัลเวีย และดอกดาวเรือง

ไฮไลท์:

  • ทุ่ง “Irodori Field” ที่จัดเรียงดอกไม้เป็นแนวสีรุ้ง

  • พิพิธภัณฑ์ลาเวนเดอร์

  • ร้านไอศกรีมลาเวนเดอร์ ที่ต้องลอง!

2. ฟาร์มลาเวนเดอร์ฮิโนเดะ (Hinode Lavender Garden) – คามิฟุราโนะ

เป็นจุดชมวิวทุ่งลาเวนเดอร์บนเนินเขา ที่มองเห็นเทือกเขาโทคาจิเป็นฉากหลัง เหมาะแก่การถ่ายภาพช่วงเช้าหรือเย็น มีบรรยากาศเงียบสงบและไม่พลุกพล่านเท่าฟาร์มโทมิตะ

ไฮไลท์:

  • จุดถ่ายภาพมุมสูง

  • ขึ้นลิฟต์ชมวิวบนหอคอยเล็ก ๆ

  • จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นเหนือทุ่งลาเวนเดอร์

3. ฟาร์มลาเวนเดอร์ Saika no Sato – นากะฟุราโนะ

เป็นฟาร์มที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสงบ ไม่เร่งรีบ มีดอกลาเวนเดอร์ปลูกเรียงรายไปตามไหล่เขา และมีร้านขายผลิตภัณฑ์จากลาเวนเดอร์ เช่น น้ำมันหอม ไขเทียน และสบู่แฮนด์เมด


กิจกรรมห้ามพลาด

  • ถ่ายรูปในทุ่งลาเวนเดอร์: เตรียมชุดสีขาวหรือสีอ่อน ๆ เพื่อถ่ายรูปตัดกับสีม่วงของดอกไม้

  • ลองไอศกรีมลาเวนเดอร์: กลิ่นหอมแบบสมุนไพรและรสชาติแปลกใหม่ ที่ไม่ควรพลาด

  • ชิมเครื่องดื่มลาเวนเดอร์: ไม่ว่าจะเป็นลาเวนเดอร์โซดา หรือน้ำผึ้งลาเวนเดอร์

  • ซื้อของฝากแนวอโรมา: เช่น น้ำมันหอม สเปรย์ฉีดหมอน หรือซองหอม


วิธีเดินทางไปยังฟุราโนะ

จากซัปโปโร (Sapporo):

  • รถไฟ: นั่ง JR จาก Sapporo ไปยัง Asahikawa แล้วต่อรถไฟสาย Furano Line ไปยังสถานี Furano หรือ Nakafurano

  • รถบัส: มีรถบัสตรงจากสถานีซัปโปโร ไปยังฟุราโนะ (ใช้เวลาประมาณ 2.5 ชั่วโมง)

  • ขับรถเอง: สะดวกและเหมาะกับการเที่ยวหลายจุดในวันเดียว โดยเฉพาะหากเดินทางเป็นกลุ่ม


ควรเตรียมอะไรไปบ้าง?

  • หมวก / ร่มกันแดด: แม้จะอากาศเย็นแต่แสงแดดกลางวันค่อนข้างแรง

  • เสื้อกันหนาวบาง ๆ: โดยเฉพาะตอนเช้าหรือเย็น

  • กล้องถ่ายรูป / โทรศัพท์พร้อมแบตสำรอง

  • หน้ากากกันฝุ่นละออง: เผื่อคนที่แพ้เกสรดอกไม้

  • เงินสดเล็กน้อย: บางร้านขายของฝากเล็ก ๆ อาจไม่รับบัตร


เส้นทางแนะนำเพิ่มเติม: 1 วันเต็มในฟุราโนะ

08:30 – ออกเดินทางจากซัปโปโร
10:30 – ถึงฟาร์มโทมิตะ เดินชมสวน ดื่มลาเวนเดอร์โซดา
12:00 – รับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารท้องถิ่น
13:30 – เยี่ยมชม Hinode Lavender Garden และถ่ายภาพ
15:00 – แวะ Saika no Sato และซื้อของฝาก
17:00 – เดินทางกลับซัปโปโร หรือเลือกพักค้างคืนในฟุราโนะ


เคล็ดลับการเที่ยวชมทุ่งลาเวนเดอร์ให้คุ้มที่สุด

  • มาวันธรรมดาเพื่อหลีกเลี่ยงคนเยอะ

  • เช็คสภาพอากาศล่วงหน้า หลีกเลี่ยงวันที่ฝนตก

  • จองที่พักล่วงหน้าโดยเฉพาะช่วงเทศกาล

  • หากไม่มีรถส่วนตัว ให้ใช้ “รถบัสชมดอกไม้” ที่วิ่งระหว่างจุดต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก


ปิดท้าย: ทุ่งลาเวนเดอร์ฮอกไกโดคือประสบการณ์ที่คุณต้องสัมผัสด้วยตัวเอง

ไม่ว่าจะมากับครอบครัว เพื่อน หรือแฟน การได้มาเดินท่ามกลางกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์ กับภาพพื้นหลังของภูเขาและท้องฟ้าใส ๆ คือความสุขที่เรียบง่ายแต่เติมเต็มหัวใจอย่างมาก และถ้าคุณอยากให้ทริปนี้ราบรื่น ไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทางและภาษา...

ขอแนะนำให้เดินทางกับบริษัททัวร์ที่เชี่ยวชาญ เช่น Letago Travel

ผู้เชี่ยวชาญด้านทัวร์ญี่ปุ่น โดยเฉพาะเส้นทางฮอกไกโด ที่ดูแลครบทุกจุด ทั้งไกด์ รถนำเที่ยว โรงแรมวิวดี และจุดชมลาเวนเดอร์สวยที่สุด สนใจดูโปรแกรมได้ที่
📍 เว็บไซต์: www.letago.com
📱 Line: @letagotravel
📞 โทร: 085-4063944