หากคุณกำลังมองหาจุดหมายปลายทางในญี่ปุ่นที่ยังคงความสงบแบบดั้งเดิม แต่ก็มีสีสันไม่แพ้เมืองใหญ่ เซนได (Sendai) คือคำตอบที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

เมืองนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดมิยางิ (Miyagi) ภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) ทางตอนเหนือของโตเกียว เดินทางด้วยรถชินคันเซ็นเพียงราว 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น แต่กลับให้ความรู้สึกแตกต่างจากเมืองหลวงอย่างสิ้นเชิง

เซนไดถูกขนานนามว่าเป็น “เมืองแห่งต้นไม้” (杜の都 Mori no Miyako) ด้วยภูมิทัศน์ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ถนนสายหลักที่ร่มรื่น และธรรมชาติอันเขียวขจีที่ล้อมรอบเมือง เป็นเมืองที่ผสมผสานวัฒนธรรมแบบซามูไรเข้ากับวิถีชีวิตสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว พร้อมทั้งมีอาหารทะเลสด ๆ จากมหาสมุทรแปซิฟิก และเทศกาลสนุก ๆ ตลอดทั้งปี


เสน่ห์ของเซนได: เมืองซามูไรที่ยังคงหายใจ

เซนไดก่อตั้งขึ้นเมื่อกว่า 400 ปีก่อนโดย “ดาเตะ มาซามุเนะ” (Date Masamune) ไดเมียวผู้มีชื่อเสียงแห่งยุคเซ็นโกกุ เขาคือผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ และวางรากฐานการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ในปัจจุบัน เมืองเซนไดยังคงมีกลิ่นอายของประวัติศาสตร์หลงเหลืออยู่ในหลายจุดทั่วเมือง


สถานที่ห้ามพลาดในเซนได

1. ปราสาทเซนได (Sendai Castle / Aoba Castle)

ถึงแม้ปัจจุบันเหลือเพียงซากปรักหักพัง แต่จุดชมวิวบนเขาอาโอบะ (Mount Aoba) ที่ตั้งของปราสาทเดิมก็ยังคงน่าตื่นตาตื่นใจ ที่นี่มีรูปปั้นของดาเตะ มาซามุเนะ ที่นั่งบนหลังม้าอย่างองอาจ และสามารถมองเห็นวิวเมืองเซนไดได้แบบพาโนรามา


2. ถนนโจเซ็นจิ โดริ (Jozenji-dori Avenue)

เส้นทางเดินเล่นสุดโรแมนติกที่เต็มไปด้วยต้นเซลโควียักษ์เรียงรายตลอดสองฝั่งถนน เป็นจุดที่โด่งดังในการชมใบไม้เปลี่ยนสีช่วงฤดูใบไม้ร่วง และหิมะขาวปกคลุมในฤดูหนาว บรรยากาศชวนให้ถ่ายภาพและเดินเล่นชิล ๆ ในทุกฤดูกาล


3. พิพิธภัณฑ์ดาเตะ (Zuihoden Mausoleum)

สุสานของดาเตะ มาซามุเนะ ที่ตกแต่งแบบสถาปัตยกรรมสมัยเอโดะอย่างงดงาม สะท้อนถึงความรุ่งเรืองของเซนไดในอดีต เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจวัฒนธรรมญี่ปุ่นและประวัติศาสตร์ยุคซามูไร


4. ตลาดปลามิยากิ (Shiogama Fish Market / Sendai Morning Market)

หนึ่งในไฮไลท์ของเซนไดคืออาหารทะเลสด ๆ โดยเฉพาะปลาทูน่า หอยเชลล์ และซูชิในแบบท้องถิ่น ลองแวะตลาดเช้าเซนได หรือขับรถไปที่ตลาดปลาชิโอกะมะ ซึ่งอยู่ไม่ไกล เพื่อสัมผัสวัฒนธรรมอาหารแบบคนท้องถิ่นแท้ ๆ


5. ถ้ำริวเซ็นโด และน้ำตกอากิอุ (Akiu Otaki Falls)

ธรรมชาติอันสวยงามของเซนไดยังรวมถึงน้ำตกและถ้ำหินปูนอันลึกลับ เดินทางเพียงไม่กี่สิบนาทีจากตัวเมืองก็จะเข้าสู่เขตธรรมชาติที่เงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อน


6. เทศกาลทานาบาตะ (Sendai Tanabata Matsuri)

จัดขึ้นในเดือนสิงหาคม เป็นเทศกาลท้องถิ่นที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคโทโฮคุ ไฮไลต์อยู่ที่การตกแต่งด้วยริบบิ้นสีสันสดใสที่ห้อยลงมาจากไม้ไผ่ตลอดถนนสายหลัก ทั้งยังมีขบวนพาเหรด ดนตรีพื้นบ้าน และอาหารมากมายให้ลิ้มลอง


7. Ice Monster บนภูเขาซาโอะ (Mount Zao)

ภูเขาซาโอะ (Mount Zaō) ไม่ได้ตั้งอยู่ในตัวเมืองเซนไดโดยตรง แต่เป็นภูเขาที่ทอดผ่านพรมแดนระหว่างจังหวัดมิยางิ (ซึ่งมีเซนไดเป็นเมืองหลัก) กับจังหวัดยามากาตะ สำหรับ Ice Monster หรือสิ่งที่เรียกว่า 樹氷 (Juhyō) — ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ต้นไม้ถูกหิมะและน้ำกลายเป็นรูปทรงประหลาดคล้ายสัตว์ประหลาดน้ำแข็ง เห็นเด่นชัดในฤดูหนาวประมาณ กลางธันวาคมถึงต้นมีนาคม เป็นช่วงที่มีเงื่อนไขทางอุณหภูมิ ลม และไอน้ำที่เหมาะสม 


เมนูขึ้นชื่อที่ห้ามพลาด

– ลิ้นวัวย่าง (Gyutan)

ของขึ้นชื่อประจำเมืองเซนไดที่มีประวัติยาวนาน ร้านดังอย่าง “Rikyu” หรือ “Kisuke” มีชื่อเสียงในการปรุงลิ้นวัวให้หอมนุ่ม ทานคู่กับข้าวบาร์เลย์และซุปหางวัว เป็นมื้อที่อิ่มกำลังดี

– ซูชิและซาชิมิจากอ่าวมัตสึชิมะ

เพียงเดินทางออกจากเซนไดไม่ไกล จะได้พบกับเมืองชายทะเลที่มีชื่อเสียงด้านหอยเชลล์ หอยนางรม และซาชิมิสดใหม่จากทะเลแปซิฟิก


ไปเซนไดยังไง?

  • ✈️ จากกรุงเทพฯ ไปเซนได: ไม่มีเที่ยวบินตรง แต่สามารถต่อเครื่องที่โตเกียว (Narita/Haneda) หรือโอซาก้า แล้วนั่งรถไฟชินคันเซ็นสาย Tohoku Shinkansen มายังสถานี Sendai ใช้เวลาประมาณ 1.5-2 ชั่วโมง

  • 🚄 ชินคันเซ็น: มีเที่ยวรถออกถี่ และสามารถใช้ JR Pass ได้ เหมาะสำหรับผู้ที่เที่ยวหลายเมือง


เที่ยวเซนไดกับ Letago Travel ดีอย่างไร?

สำหรับใครที่อยากสัมผัสเมืองเซนไดแบบลึกซึ้ง สบาย ไม่ต้องวางแผนเองจนปวดหัว Letago Travel คือคำตอบที่ช่วยให้คุณเที่ยวญี่ปุ่นได้แบบมืออาชีพ โดยเฉพาะเส้นทางโทโฮคุที่หลายคนยังไม่ค่อยรู้จัก แต่มีเสน่ห์ไม่แพ้ฮอกไกโดหรือคันไซ

ไกด์มืออาชีพ ให้ข้อมูลครบถ้วน

ทีมไกด์ของ Letago มีประสบการณ์พานักท่องเที่ยวไทยไปสัมผัสญี่ปุ่นในแบบเจาะลึก เข้าใจทั้งภาษา วัฒนธรรม และสามารถแนะนำร้านอร่อยแบบคนพื้นที่ได้จริง

โปรแกรมรวมไฮไลท์เด็ด

แพ็คเกจเที่ยวเซนไดของ Letago มักรวมสถานที่สำคัญ เช่น ปราสาทเซนได พิพิธภัณฑ์ดาเตะ วิวแม่น้ำฮิโรเซะ และกิจกรรมพิเศษ เช่น การชิมลิ้นวัวย่างแบบต้นตำรับ การเดินตลาดปลาท้องถิ่น และการชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ถนนโจเซ็นจิ

สะดวกสบาย เดินทางไม่เหนื่อย

เลือกเดินทางด้วยรถบัสส่วนตัวในญี่ปุ่น โรงแรมระดับดี อาหารครบทุกมื้อ และเวลาท่องเที่ยวที่พอดี ไม่เร่ง ไม่เหนื่อยเกินไป

เซนได – เมืองเล็กแต่มากด้วยมนต์เสน่ห์

เซนไดอาจไม่ใช่เมืองที่นักท่องเที่ยวไทยนึกถึงเป็นอันดับต้น ๆ แต่กลับเป็นเมืองที่ "ให้ความรู้สึกญี่ปุ่นแท้" มากที่สุดเมืองหนึ่ง ทั้งในแง่วัฒนธรรม ธรรมชาติ อาหาร และความเงียบสงบ เที่ยวง่าย คนไม่พลุกพล่าน แต่ก็ไม่เหงา หากคุณเบื่อเมืองใหญ่ ๆ และอยากเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ กับญี่ปุ่น ลองเลือก “เซนได” เป็นจุดเริ่มต้น แล้ว Letago Travel จะพาคุณไปสำรวจเมืองนี้ในแบบที่คุณจะประทับใจไม่รู้ลืม


ตัวอย่างโปรแกรมยอดนิยมของ Letago

ทัวร์โทโฮคุ 6 วัน 4 คืน: Sendai – Aomori – Hirosaki – Zao

  • เที่ยวเซนไดแบบเต็มวัน

  • ชมซากุระหรือใบไม้เปลี่ยนสี (ตามฤดูกาล)

  • แช่ออนเซ็นที่ภูเขาไฟซาโอะ (Zao Onsen)

  • เยี่ยมชมทะเลสาบโทวาดะ (Towada)

  • ทานลิ้นวัวย่าง และซาชิมิสด ๆ ทุกวัน


เที่ยวเซนได ฤดูไหนดี?

  • 🌸 ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม–พฤษภาคม): ชมซากุระสวยงามในสวนสาธารณะต่าง ๆ เช่น Tsutsujigaoka Park

  • 🌿 ฤดูร้อน (มิถุนายน–สิงหาคม): เทศกาลทานาบาตะ และอากาศสดชื่นไม่ร้อนเกินไป

  • 🍁 ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน–พฤศจิกายน): ใบไม้แดงสะพรั่งที่ภูเขาใกล้เมืองและถนนต้นไม้โจเซ็นจิ

  • ❄️ ฤดูหนาว (ธันวาคม–กุมภาพันธ์): มีหิมะให้เล่น แต่ไม่หนาวเท่าฮอกไกโด และมีเทศกาลประดับไฟสุดโรแมนติก